AIS เจ้าแรกโอเคตอบรับฝากยิงสดไทยลีก ฤดูกาล 2023-24
ความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลไทย หลังจากที่ 16 สโมสรในไทยลีก หารือทางออกของการหาลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทย และ ช่องทางถ่ายสด ซึ่งเบื่องต้นได้แนวทาง และเคาะราคาค่าสมัครสมาชิกอยู่ที่รายเดือน 59 บาท และรายปี 500 บาท รายได้นำมาจัดสรรให้สโมสรต่างๆ แบ่งกับเจ้าของแพลตฟอร์ม
ทั้งนี้จะมีการประชุม หารือครั้งต่อไป ในวันที่ 21 กรกฎาคมนี้ ณ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แค่ผู้แทน 8 สโมสร ที่ได้รับมอบหมาย คือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี, เมืองทอง ยูไนเต็ด, ชลบุรี เอฟซี, ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด, สุโขทัย เอฟซี, ราชบุรี เอฟซี และ โปลิศ เทโร
ล่าสุด ธัญญะ วงศ์นาค โฆษกไทยลีก เผยว่า “AIS คือเจ้าแรกที่ตอบรับในการนำแพลตฟอร์มไปถ่ายทอดสดบน AIS Play ค่าแพ็กเกจลงตัวตามที่กำหนด รายปี 500 บาท และรายเดือน 59 บาท แต่ต้องคุยเพิ่มเติมเรื่องการแบ่งรายได้ ก่อนหน้านี้ทางไทยลีกจะได้รับราว 75-80 เปอร์เซ็นต์ แต่ครั้งนี้ทางผู้ใหญ่ของคณะไทยลีกอยากให้เจรจาเพิ่มส่วนแบ่งเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะต้องพูดคุยกันอีกครั้ง”
ธัญญะ กล่าวต่อไปว่า “ส่วน ทรู นั้น ต้องรอผู้บริหารคิดแนวทางการขาย คาดว่าทุกอย่างจะได้ความชัดเจนในวันที่ 21 กรกฎาคม ซึ่ง ทรูไอดี มีแพ็กเกจของตัวเองอยู่พอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือถ่ายทอดสดฟุตบอลยุโรปที่มีอยู่แล้ว ต้องมาคุยกันอีกครั้งว่าจะจัดแพ็กเกจเสริมอย่างไรให้มีไทยลีกอยู่ในนั้นด้วย”
โฆษกไทยลีก กล่าวต่อไปว่า “สำหรับการขายแพ็กเกจ มีตัวเลขตั้งต้นอยู่แล้วที่ 60,000 ยูสเซอร์ จาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่การันตีในที่ประชุมแล้วว่า แต่ละสโมสรจะมีแฟนบอลร่วมซื้อแพ็กเกจขั้นต่ำไม่น้อยกว่าสโมสรละ 20,000 คน ส่วนที่เหลือต้องไปดูตัวเลขย้อนหลังจาก AIS ว่าตลอดปีที่ผ่านมานั้นมียอดผู้ชมและยอดซื้อแพ็กเกจเท่าไหร่และวางเป้าหมายว่าต้องขายได้อย่างน้อยกี่ยูสเซอร์ เพื่อให้ได้เงินกลับมาช่วยทุกสโมสร”
“ส่วนตัวคิดว่า หากได้ 500,000 ยูสเซอร์ จากรายปี ปีละ 500 บาท นั้น ก็น่าจะมีเงินให้กับทุกสโมสรราว 10 ล้านบาท คิดว่าเพียงพอต่อการบริหารจัดการภายในทีม ขณะเดียวกัน แพลนบี ก็จะไปเสนอกับฟรีทีวีอีกทางหนึ่งด้วย”